อบรมดับเพลิง และ ซ้อมอพยพหนีไฟ ลด50%
อบรมดับเพลิงขั้นต้นตามกฎหมาย
กฎหมายได้ระบุให้สถานประกอบกิจการต้องจัดอบรมดับเพลิง ให้กับพนักงาน ไม่น้อยกว่า 40% ของจำนวนลูกจ้างของแต่ละหน่วยงาน และ การอบรม ให้อบรมได้ 60 คน ต่อ 1 รุ่น ต่อวิทยากร 1 คน ภาคปฎิบัติ ผู้เข้ารับการอบรม 20 คน ต่อวิทยากร 1 คน (กรณีพนักงานที่เข้าอบรมมีจำนวนมากกว่า 60 คน สามารถแบ่งเป็นหลายรอบได้ แต่ต้องจัดซ้อมอพยพพร้อมกัน)
ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
หน่วยฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นต้น
เลขที่ใบอนุญาต ดพต. 096
หน่วยงานฝึกซ้อมดับเพลิง
และซ้อมอพยพหนีไฟ
เลขที่ใบอนุญาต ดพฝ. 100
ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำ
เรียนเทคนิคการใช้ถังดับเพลิงแต่ละชนิด
อบรมดับเพลิง
หลายครั้งที่เราพบว่าการเกิดไฟไหม้ในสถานประกอบกิจการ ไฟไหม้ในโรงงาน หรือ อาคารต่าง ๆ มาจากการที่เรานั้นไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ตั้งแต่แรกทำให้ไฟเกิดการขยายตัวและยากเกินการควบคุมจากไฟไหม้เล็กน้อยเป็นรุนแรงและเกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน กฎหมายด้านความปลอดภัยในประเทศไทยได้ให้ความสำคัญที่จะให้พนักงานนั้นได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการควบคุมและการดับเพลิงขั้นต้นอย่างถูกวิธีเพื่อสามารถตอบโต้เหตุไฟไหม้ต่างๆไม่ให้รุกลามรวมไปถึงสามารถใช้อุปกรณ์ดับเพลิงเบื้องต้นได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
ต้องอบรมกี่คน
คำตอบคือ
40%
ของจำนวนลูกจ้างของแต่ละหน่วย
ปีละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย







กฎหมายให้อบรม และ ฝึกซ้อมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
เวลา | กฎกระทรวงการเป็นหน่วยงานฝึกอบรมการดับเพลิงขั้นต้นฯ |
---|---|
08.30-09.00 น. | ลงทะเบียน /ปฐมนิเทศ/Pre-test |
09.00-12.15 น. | ภาคทฤษฎี หัวข้อวิชาดังนี้ 1) ทฤษฏีการเกิดเพลิงไหม้ 2) การแบ่งประเภทของเพลิง และวิธีการดับเพลิงประเภทต่างๆ 3) จิตวิทยาเมื่อเกิดอัคคีภัย 4) การป้องกันแหล่งกําเนิดของการติดไฟ 5) เครื่องมือดับเพลิงชนิดต่าง ๆ 6) วิธีการใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่ใช้ ในการดับเพลิง 7) แผนการป้องกันและระงับอัคคีภัย 8) การจัดระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย การประยุกต์ใช้ ระบบและอุปกรณ์ที่มีอยู่ใน สถานประกอบการ |
13.15-16.30 น. | ภาคปฏิบัติ 1) ฝึกดับเพลิงประเภท เอ ด้วยการใช้เครื่องดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้ที่ใช้ในน้ำสะสมแรงดัน หรือสารดับเพลิงที่สามารถดับเพลิงประเภท เอ 2) ฝึกดับเพลิงประเภท บี ด้วยการใช้เครื่องดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้ ที่ใช้สารดับเพลิงชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ โฟม ผงเคมีแห้ง หรือสารดับเพลิงที่สามารถดับเพลิงประเภท บี 3) ฝึกดับเพลิงประเภท ซี ด้วยการใช้เครื่องดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้ ที่ใช้สารดับเพลิงชนิดคาร์บอนไดออกไซด์ ผงเคมีแห้ง หรือสารดับเพลิงที่สามารถดับเพลิงประเภท ซี 4) ฝึกดับเพลิง โดยใช้สายดับเพลิง |
16.30-16.45 น. | Post-test |
หมายเหตุ | * พัก-รับประทานอาหารว่างเวลา 10.30-10.45 น. และเวลา 14.45-15.00 น. * พัก-รับประทานอาหารกลางวันเวลา 12.15-13.15 น. |
หมายเหตุ:
- ระยะเวลา 1 วัน ( ภาคทฤษฎี 3 ชั่วโมง ปฏิบัติ 3 ชั่วโมง)
- อบรม 1 รุ่น ไม่เกิน 60 คน : วิทยากร 1 คน
- ภาคปฎิบัติ ผู้เข้ารับการอบรม 20 คน ต่อวิทยากร 1 คน
- รับหนังสือรับรองการฝึกอบรมถูกต้องตามกฎกระทรวง ถูกต้องภายใน 15 วันหลังอบรม
องค์ประกอบของการลุกติดไฟ
1. เชื้อเพลิง (fuel) ซึ่งจะอยู่ในสภาพของแข็ง ของเหลว หรือแก๊ส
2. ออกซิเจน (oxygen) ซึ่งะมีอยู่ในอากาศประมาน 21% โดยปริมาณ
3. ความร้อน (heat) พอเพียงที่จะติดไฟได้
เมื่อมีองค์ประกอบทั้ง 3 ครบแล้วไฟจะเกิดลุกไหม้ขึ้นและเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ อ่านต่อ..
เรียนรู้การใช้ถังดับเพลิง
- ดับเพลิงประเภท A
- ดับเพลิงประเภท B
- ดับเพลิงประเภท C
- ฝึกดับเพลิงโดยใช้สายดับเพลิง
ประโยชน์ของการอบรมดับเพลิง
ข้อกำหนดของกฎหมายที่ทุกสถานประกอบกิจการที่เข้าข่ายตามกฎหมายต้องจัดให้พนักงานผ่านการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้นและซ้อมอพยพหนีไฟ ทำให้พนักงานได้มีทักษะเกี่ยวกับการดับเพลิงเบื้องต้นรวมไปถึงวิธีการใช้ถังดับเพลิงประเภทต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้หากไม่มีความรู้ความเข้าใจเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ขั้นต้นผู้พบเห็นเหตุการณ์จะไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่าจะดำเนินการตอบโต้อย่างไร
1. พนักงานในองค์กรมีความเข้าใจถึงสาเหตุและการป้องกันอัคคีภัย
การแยกแยะชนิดของเชื้อเพลิงนั้นพนักงานจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานที่สำคัญในการลุกติดไฟเพราะไฟแต่ละประเภทนั้นจะมีลักษณะที่แตกต่างกันสิ่งเหล่านี้นำไปสู่การพิจารณาเลือกใช้ถังดับเพลิงหรืออุปกรณ์ดับเพลิงที่จะเข้าตอบโต้เหตุได้อย่างถูกต้องและเกิดความปลอดภัยต่อผู้ดับเพลิงตามหลักสากล
ประเภทของเพลิงไหม้ 5 ประเภทที่มีความจำเป็นต้องเรียนรู้ได้แก่
- เพลิงไหม้ประเภท A (Ordinary Combustibles) คือเพลิงที่เกิดจากการลุกติดไฟจากวัสดุทั่วๆไป เช่น กระดาษ เศษไม้ ยางรถ พลาสติก
- เพลิงไหม้ประเภท B (Flammable Liquids) เป็นเพลิงไหม้จากเชื้อเพลิงที่เป็นของเหลวติดไฟ เช่น น้ำมัน สารเคมีไวไฟ
- เพลิงไหม้ประเภท C ( Electrical Equipment) เป็นเพลิงไหม้จากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกระแสไฟไหลอยู่ขณะเกิดไฟไหม้อุปกรณ์ไฟฟ้า
- เพลิงไหม้ประเภท D (Combustible Metals) เป็นเพลิงไหม้ที่เกิดจากการลุกติดไฟของโลหะชนิดต่างๆ เช่น ล้อแม็กรถยนต์
- เพลิงไหม้ประเภท K (Combustible Cooking) เป็นเพลิงไหม้จากซากพืชซากสัตว์ น้ำมันพืชที่ใช้ประกอบอาหาร
2. ผู้เรียนสามารถประเมินเหตุการณ์ และ อพยพหนีไฟได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว
การประเมินสถานการณ์ขณะเกิดเพลิงไหม้มีความจำเป็นอย่างมากที่ผู้ประเมินจะต้องมีความรู้ในหลายๆด้าน จะต้องมีสติเพื่อประสานงานต่อไปยังหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็วทำให้การควบคุมเพลิงและเข้าตอบโต้เหตุเพลิงไหม้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อทุกคนผ่านการอบรมระบบดับเพลิงแล้วจะสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม และไม่ตื่นตระหนกเมื่ออพยพต้องหนีไฟออกจากอาคารเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย รวมถึงเมื่อพบเห็นเพลิงไหม้ตรงหน้าจะสามารถเตือนผู้อื่นหรือระงับเหตุเบื้องต้นได้ทันที
3. ผู้เข้าอบรมเข้าใจเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงขั้นพื้นฐานได้อย่างปลอดภัย
ผู้เข้าอบรมที่นอกจากจะได้รับความรู้เกี่ยวกับสาเหตุและการป้องกันการเกิดอัคคีภัยแล้ว ในภาคปฏิบัติที่นอกจากการซ้อมหนีไฟ คือการฝึกการใช้งานอุปกรณ์ดับเพลิงในอาคารเพื่อใช้ในการระงับเหตุอัคคีภัยขั้นต้น ได้แก่
- การปฏิบัติตัวตามแผนฉุกเฉินขององค์กรในการตอบโต้เหตุขั้นต้นไปจนถึงการเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ตามความรุ่นแรงของเพลิงไหม้ การใช้ถังดับเพลิงได้อย่างถูกต้องตามประเภทของไฟ ทำให้การดับไฟมีประสิทธิภาพและผู้ระงับเหตุเกิดความปลอดภัย
- การใช้สายส่งน้ำดับเพลิง ซึ่งอยู่ในตู้ดับเพลิงที่ทางอาคารจัดเตรียมเอาไว้ ว่าใช้งานอย่างไรและการใช้สัญญาณมือเพื่อเปิด-ปิด วาล์วน้ำเนื่องจากจะต้องใช้กำลังคนหลายคน
- ฝึกดับเพลิงที่เกิดจากเชื้อเพลิงธรรมดาและแก๊สโดยการใช้ถังดับเพลิงอย่างถูกวิธี และตำแหน่งที่ติดตั้งของถังดับเพลิงในอาคารว่ามีที่ไหนบ้าง จำนวนเท่าไร
การตอบโต้เหตุฉุกเฉินที่เกิดจากเพลิงไหม้ตั้งแต่ไฟยังมีขนาดที่เล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์บานไปสู่ระดับรุ่นแรงเห็นได้ชัดว่าพนักงานที่ผ่านการอบรมแล้วจะมีความมั่นใจเกี่ยวกับการตอบโต้เหตุเพลิงไหม้ด้วยถังดับเพลิงเพราะว่าได้มีการผ่านการฝึกซ้อมมาแล้วต่างกับพนักงานหรือบุคคลที่ยังไม่ผ่านหรือไม่เคยอบรมเมื่อเกิดเหตุจะไม่สามารถดับเพลิงได้อย่างถูกต้องหรืออาจจะใช้อุปกรณ์ผิดวิธีสิ่งเหล่านี้นำไปสู่อันตรายได้ ดังนั้นเราควรให้พนักงานทุกคนได้มีความรู้เกี่ยวกับการตอบโต้เหตุเพลิงไหม้ขั้นต้นตามหลักสูตรที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้ทุกคนนั้นมีความพร้อมต่อเหตุการณ์เพลิงไหม้ในสถานประกอบการของเรา
การอพยพหนีไฟประจำปีคืออะไร
การอพยพหนีไฟคือ การเตรียมความพร้อมเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ในสถาประกอบกิจการของเราในระดับรุนแรงตามที่องค์กรตั้งเอาไว้บางทีได้กำหนดระดับความรุนแรงของเหตุไฟไหม้เป็นระดับเช่น
ไฟไหม้ระดับ 1 คือ สามารถควบคุมเพลิงได้โดยง่ายด้วยตนเองหรือถังดับเพลิง
ไฟไหม้ระดับ 2 คือ ต้องใช้ทีมดับเพลิง และ อุปกรณ์ดับเพลิงเพื่อระงับเหตุ
ไฟไหม้ระดับ 3 คือ ไฟไหม้ระดับรุนแรงทีมดับเพลิงในองค์กรไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ต้องทำการอพยพพนักงานทุกคนหนีไฟออกจากพื้นที่ และ ร้องขอความช่วยเหลือจากทีมดับเพลิงภายนอก
ดังนั้นพนักงานในองค์กรจึงต้องเตรียมความพร้อมและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟเป็นประจำทุกปีเพื่อให้เกิดความพร้อมต่อเหตุจริง เป็นการซ้อมหรือนัดแนะให้มีความพร้อมเพียงในและละหน่วยงานไม่ให้เกิดความสับสนวุ่นวายและเป็นระเบียบขณะทำการเดินไปยังจุดรวมพลที่ได้กำหนดเอาไว้ในแต่ละพื้นที่เป็นต้น
อบรมดับเพลิงกับ Safesiri ดีอย่างไร
บริษัท เซฟสิริ (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์ฝึกอบรมด้านความปลอดภัยในการทำงานได้รับความนิยมจากลูกค้าชั้นนำระดับประเทศมากกว่า 1000+ บริษัทชั้นนำระดับประเทศด้วยหลักสูตรการเรียนการสอนที่ได้มาตรฐานสากล
เราได้รับการรับรอง และ อนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานถูก ต้องตามกฎหมาย ที่สำคัญ หลักสูตรอบรมดับเพลิงของบริษัท เซฟสิริ (ประเทศไทย) จำกัด ฝึกสอนโดยทีมวิทยากรที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พร้อมอุปกรณ์การเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติที่ได้มาตรฐานสากล
ภาคปฏิบัติ และ การซ้อมหนีไฟจะเป็นการอบรมที่สถานที่จริง เพื่อที่ผู้เข้าอบรมได้ปฏิบัติจริง ตามข้อกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555 กำหนด
บริการแนะนำเผื่อคุณสนใจ
ดูหลักสูตรทั้งหมด
อบรมความปลอดภัยฯ มากกว่า 100+ หลักสูตร
สินค้า PPE
อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล
ตรวจรับรองวิศวกรรม
ตรวจวิศวกรรมโรงงานโดยวิศวกรมืออาชีพ