วิธีป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากรถยนต์

1.งดใช้มือถือขณะขับรถ หนึ่งสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุบนท้องถนน หากมีความจำเป็นต้องทำการติดต่อ แนะนำให้ใช้หูฟังหรืออุปกรณ์อื่นๆช่วย

2.คาดเข็มขัดนิรภัย การใช้เข็มขัดนิรภัยก็ไม่มีการตรวจจับเข้มงวดเช่นกัน แถมแท็กซี่หลายคันไม่มีแม้กระทั่งเข็มขัดนิรภัยในเบาะหลัง ถ้าคุณเดินทางไกลและไม่รีบนัก ก็ควรจะรอคันใหม่ที่มีเข็มขัดนิรภัย ควรคาดเข็มขัดนิรภัยเสมอและใช้ที่นั่งเด็กหากมีเด็กเล็ก

3.ไม่ขับรถเร็วเกินกำหนด อย่าเห็นแก่ธุระสำคัญ หรือแม้แต่ความสนุก  จนลืมนึกถึงความปลอดภัย  ของตนเองและเพื่อนร่วมทาง

4.นำรถเข้าศูนย์ รถยนต์บนท้องถนนในประเทศไทยส่วนมากใช้งานกันมานานแล้ว ควรนำรถเข้าศูนย์เพื่อเช็คระยะและความปลอดภัยก่อนขับระยะทางไกล เช็คลมยางให้ดีก่อนออกเดินทาง

5.เปิดไฟให้สัญญาณ การส่งสัญญาณไฟขณะที่เบรก หรือเลี้ยว   เพื่อสื่อสารกับผู้ขับขี่คนอื่นๆ เป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน 

6.ง่วงไม่ขับ  พักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อรู้ว่าต้องเดินทางไกล  ควรนอนอย่างน้อย7 ชั่วโมงและแวะพักตามจุดพักรถ เพื่อไม่ให้ร่างกายเหนื่อยล้าจากการเดินทางที่ยาวนาน

7.เมาไม่ขับ เพื่อสวัสดิภาพของคุณเอง ห้ามดื่มแล้วขับรถเด็ดขาด  ยังมีอีกหลายวิธีที่ดีกว่า ที่คุณสามารถทำได้ เช่น ให้เพื่อนช่วยขับรถ หรือใช้บริการแท็กซี่

8.ปฏิบัติตามกฎจราจร การปฏิบัติตามกฎจราจร ช่วยลดอุบัติเหตุ  และช่วยลดความสูญต่อเสียชีวิตและร่างกาย เคารพกฎจราจรสักนิดชีวิตคุณจะปลอดภัย

9. ขับรถเวลาที่เหมาะสม ถ้าเป็นไปได้ คุณควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ในตอนกลางคืนหรือตอนฝนตก แม้จะไม่ได้เกิดอุบัติเหตุเสมอไป แต่จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในประเทศไทย ก็มักจะเกิดในช่วงเวลานี้ หากจำเป็นต้องออกข้างนอก ก็ควรขับรถอย่างระมัดระวัง

ยางแตกหรือยางระเบิด
            เมื่อยางแตกหรือยางระเบิดกะทันหัน ไม่ว่าอยู่ในช่วงความเร็วใด จะต้องถือพวงมาลัยไว้ให้มั่นคงต้องพยายามบังคับรถให้เข้าข้างทางให้ได้ด้วยความระมัดระวัง และควรคำนึงถึงว่าอย่าใช้เบรกอย่างกะทันหันเมื่อรถวิ่งในความเร็วสูง เพราะจะทำให้รถที่วิ่งมานั้นหมุนเป็นวงกลม พยายามใช้เกียร์ของเครื่องยนต์เป็นตัวชะลอความเร็วโดยการเปลี่ยนเกียร์ต่ำทันที
กรณียางหลังระเบิด ด้านหลังรถจะส่าย แต่ถ้าถือพวงมาลัยไว้ให้มั่นคงและรักษาทิศทางให้ตรงก็สามารถแก้ไขปัญหาได้ พยายามย้ำเบรกหลายๆครั้งติดกัน เพื่อที่น้ำหนักของรถจะได้ตกอยู่บนล้อข้างที่ยังใช้งานได้
กรณียางหน้าระเบิด พยายามจับพวงมาลัยให้มั่นคง ใช้เบรกให้เบาที่สุด มิฉะนั้นน้ำหนักจะทิ้งไปข้างหน้ามากขึ้น ถ้ารถแฉลบไปข้างใดต้องคอยขืนพวงมาลัยกลับมาให้ตรงทิศทางให้ได้ จนกว่ารถจะเข้าข้างทางได้เรียบร้อย

มีสัตว์ขวางทาง
         มีสัตว์วิ่งตัดหน้า หรือขวางทาง ควรลดความเร็ว แล้วตรึงพวงมาลัย จับให้มั่นแต่ไม่ควรเบรกอย่างรุนแรงหรือหักหลบทันที เพราะอาจทำให้รถยนต์พลิกคว่ำได้ และไม่ควรหักหลบในช่องทางที่รถยนต์เล่นสวนมา
หากไม่รีบเร่ง ควรปล่อยให้สัตว์เหล่านั้นเดินจนพ้นจากถนน ไม่ควรบีบแตรไล่เพราะอาจทำให้สัตว์ตกใจและหันมาทำอันตรายเราได้
การแซงควรเลี้ยวไปทางด้านหลังของสัตว์ เพราะการตัดหน้าจะทำให้สัตว์ตกใจและเตลิด ซึ่งอาจจะทำอันตรายกับรถยนต์ในช่องทางอื่นได้

มีรถวิ่งสวนเข้ามาในเลน
        มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในการขับรถยนต์บนถนน 2 เลนส่วนกัน โดยขั้นแรกควรลดความเร็วลงแต่อย่ามากเกินไปจนทำให้รถยนต์คันที่ตามมาด้านหลังชนได้ และมองกระจกด้านซ้ายเพื่อหาทางหนีทีไล่ พร้อมกระพริบไฟสูงและบีบแตรเตือน และเบี่ยงออกทางเลนซ้าย
ไม่ควรหลบข้ามเลนเลยไปในช่องทางของรถยนต์ที่แล่นสวนมา เพราะบ่อยครั้งที่คนขับเพิ่งรู้สึกตัวแล้วหักหลบกลับเข้ามายังเลนเดิมจนทำให้เกิดการชนกันได้

คันเร่งค้าง
          เมื่อเกิดคันเร่งค้าง ให้ใช้เบรกช่วยในการชะลอความเร็วโดยไม่ต้องแตะคลัทช์ ให้ใช้คลัทช์เฉพาะในการเปลี่ยนเกียร์เท่านั้น เพื่อช่วยในการลดความเร็วลงเมื่อจำเป็น และประคองรถมาเรื่อยๆโดยใช้เบรกหลายๆครั้งในกรณีที่เครื่องยนต์รอบไม่จัด เมื่อรถยนต์ลดความเร็วมาถึงอัตราที่ปลอดภัยแล้วให้ใช้ปลายเท้าขวาสอดเข้าใต้คันเร่งแล้วดันขึ้น ถ้าคันเร่งไม่ขึ้นก็ให้พารถยนต์เข้าข้างทางด้วยการปิดสวิทช์การทำงานของเครื่องยนต์ แต่ต้องให้รถยนต์มีความเร็วช้าๆ และจะต้องใช้เบรกมือช่วยในการชะลอความเร็ว
ข้อควรระวัง การปิดสวิทช์กุญแจ ควรปิดมาตำแหน่ง OFF อย่าปิดมาที่ตำแหน่งล็อค LOCK เพราะพวงมาลัยจะถูกล็อคทำให้ไม่สามารถบังคับรถยนต์ได้

ล้อหลุด
           สาเหตุมักเกิดจากน๊อตล้อหลุด และรถจะเสียการทรงตัวส่ายไปมาในกรณีนี้ต้องใช้เบรกฉุกเฉินและถือพวงมาลัยให้มั่นคง บังคับไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับรถที่ส่าย และนำรถเข้าข้างทางเพื่อแก้ไข ซึ่งเราสามารถถอดน๊อตจากล้ออื่นๆ อย่างละ 1 ตัว มาใส่ยึดล้อข้างที่หลุด เพื่อแทนที่น๊อตล้อตัวที่หลุดไป แล้วใช้ช่างแก้ไขเมื่อถึงอู่ที่อยู่ใกล้ที่สุด

รถหลุดออกจากทางวิ่ง
        อาจเป็นเพราะหักลบสิ่งกีดขวางอย่างกะทันหัน ทำให้รถยนต์ไถลออกนอกเส้นทางเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ควรตั้งสติให้มั่น ไม่ควรเหยียบเบรก
อย่างแรง เพราะอาจทำให้ล้อล็อคหรือลื่นไถลจนรถยนต์เสียการทรงตัวได้

วิธีที่ถูกต้องควรลดความเร็วด้วยการแตะเบรกแล้วปล่อย พร้อมกับลดจังหวะเกียร์ เพื่อใช้เครื่องยนต์ช่วยในการชะลอความเร็วอีกเล็กน้อย และควรมองหาที่ราบไม่มีสิ่งกีดขวางเพื่อจอดรถ นอกจากนั้นสายตายังต้องมองทางข้างหน้าเพื่อหลบสิ่งกีดขวาง ไม่ควรหักหลบทันทีเพราะรถยนต์อาจ
พลิกคว่ำได้

เครื่องยนต์ร้อนจัด
         เมื่อเครื่องยนต์ร้อนจัดจะมีไฟเตือนโชว์ขึ้นมาหรือเข็มวัดอุณหภูมิสูงถึงตัว H ย่อมแสดงว่าเกิดความผิดปกติในระบบระบายความร้อน ให้รีบนำรถเข้าข้างทางเปิดไฟฉุกเฉิน และห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในทันทีเพราะภายในหม้อน้ำที่ร้อนจัด จะมีแรงดันสูงน้ำร้อนอาจจะพุ่งขึ้นมาซึ่งเป็นอันตรายได้ และให้ตรวจดูสภาพหม้อน้ำ ตรวจสภาพสายพาน ตรวจสภาพพัดลมระบายความร้อนและอื่นๆ และให้ติดต่ออู่หรือศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด

สิ่งของตกกีดขวางอยู่บนถนน
          เมื่อมีสิ่งของอยู่บนถนนเราไม่ควรแล่นทับ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายหรือเกิดความเสียหายได้ ควรลดความเร็วลง หากช่องทางทั้งซ้าย-ขวาที่ไม่มีรถยนต์แล่นตามหลังมาให้หักหลบโดยพยามเบี่ยงให้น้อยที่สุด เพราะการหักหลบมากๆ ในขณะที่รถยนต์มีความเร็วสูง อาจจะทำให้รถยนต์หมุนหรือปัดส่ายไปมาได้

หากเลี่ยงไม่ได้หลังการทับหรือชน ควรจอดรถแล้วตรวจสอบชิ้นส่วนใต้ท้องรถยนต์ว่า มีความเสียหายเกิดขึ้นหรือไม่ เช่น คันชักคันส่ง, ท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิง, ถังน้ำมันเชื้อเพลิง, ยางล้อ เป็นต้น

ฝากระโปรงหน้ารถยนต์เปิดบัง
         หากกำลังขับขี่รถยนต์แล้วฝากระโปรงหน้าหลุดออกจากล็อค หรือเปิดขึ้นเนื่องจากปิดไม่สนิท จึงเป็นเหตุให้ฝากระโปรงหน้าเปิดขึ้นมาบังกระจกหน้ารถ ให้รีบหยุดรถแต่อย่าให้กะทันหันเกินไป เพราะรถยนต์คันหลังซึ่งอาจจะตามมาติดๆ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และควบคุมสติอย่าตกใจรีบนำรถยนต์เข้าข้างทาง โดยชะลอความเร็วของรถยนต์ และตรวจเช็คล็อคฝากระโปรงหน้าให้เรียบร้อย