ไฟฟ้าลัดวงจร คืออะไร ป้องกันอย่างไร

อันตรายจาก ไฟฟ้าลัดวงจร

อุบัติเหตุภายในครัวเรือนนั้น เป็นสิ่งที่เราไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่ออุบัติเหตุนั้นเกิดจากระบบต่าง ๆ ภายในบ้านที่เกิดชำรุด ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง เพราะการชำรุดดังกล่าวนั้นจะทำให้ผู้ที่อาศัยร่วมครัวเรือนอาจจะได้รับบาดเจ็บจนถึงแก่ชีวิตได้เลย และยังนำมาซึ่งการสูญเสียทรัพย์สินอย่างมากมายได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นอุบัติเหตุภายในครัวเรือนจึงเป็นสิ่งที่ควรตระหนักเป็นอย่างสูง และหนึ่งในอุบัติเหตุที่ถูกพูดถึงอย่างมาก และเป็นสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นบ่อย นั่นก็คือ ไฟฟ้าลัดวงจร

ไฟฟ้าลัดวงจร เป็นเหตุการณ์ที่ไฟฟ้าเกิดดำเนินไปอย่างผิดปกติ จนทำให้ก่อความร้อนหรือไฟฟ้ารั่วออกมา ซึ่งนำมาสู่การเกิดความร้อนสูงจนนำไปสู่การเกิดอัคคีภัยได้เลยทีเดียว อาจจะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วและถ้ากระแสไฟฟ้าเกิดไหล ก็อาจะทำให้ร่างกายของเราถูกไฟฟ้าช็อตหรือไฟดูด จนถึงแก่ชีวิตได้เลยทีเดียว 

ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดการลัดวงจรนั้น ก็มีอยู่มากมายเหลายสาเหตุเลยทีเดียว ดังนี้

1. ใช้คัตเอาต์ไฟฟ้าแบบเก่า ซึ่งคัตเอาต์ประเภทนี้จะตัดหรือต่อวงจรไฟฟ้าได้ก็ต่อเมื่อยกขึ้นลงด้วยมือ จึงไม่ตัดการทำงานอัตโนมัติ จึงทำให้เกิดการลัดวงจรได้ง่าย

2. ฉนวนสายไฟฉีกขาด ซึ่งถ้าหากเกิดฉีกขาดเข้า จะทำให้ลวดนำไฟฟ้าอาจไปเสียดสีกับสายไฟหรือสื่อนำไฟฟ้าอื่นจนเกิดการลัดวงจรได้

3. เครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุด ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ล้วนแล้วแต่มีอายุการใช้งานที่จำกัด ซึ่งถ้าเกิดมันมีอายุการใช้งานที่เก่าเกินไป หรือมีการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจส่งผลทำให้เไฟฟ้าลัดวงจรและเกิดอัคคีภัยขึ้นได้ง่าย

4. อุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งด้วยอุปกรณ์ประเภทนี้จะมีไฟฟ้าไหลผ่านตลอดเวลา จึงส่งผลให้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้จะไม่มีระบบความปลอดภัยและมาตรฐานในการผลิตที่ดีพอ จนส่งผลทำให้เกิดการลัดวงจรได้ง่าย

5. ใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง ซึ่งเกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุ เช่น สายไฟเส้นเล็กเกินไป ใช้กระแสไฟผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้ามากเกินไป หรือมีการต่อปลั๊กพ่วงมากเกินไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการผลิตกระแสไฟฟ้าออกมาเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่สายไฟจะรับไหว จนทำให้เกิดความร้อน ซึ่งนำมาสู่เหตุการณ์ไฟไหม้ได้นั่นเอง

และนั่นจึงทำให้เราควรที่จะรู้จักวิธีป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรภายในบ้านของเราเอง ซึ่งมีวิธีการดังนี้

1. ใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีระบบตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติเมื่อพบความผิดปกติในวงจรไฟฟ้า ซึ่งถือว่าเป็นการป้องกันการลัดวงจรที่ดีเยี่ยมเลยนั่นเอง

2. เปลี่ยนสายไฟที่เก่าและขาด โดยเริ่มจากการตัดกระแสไฟฟ้าในบริเวณนั้น แล้วเปลี่ยนสายไฟใหม่โดยเร็วที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าหากยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้สายไฟเดิม ก็ต้องซ่อมแซมด้วยเทปพันสายไฟให้แน่นหนาที่สุดนั่นเอง

3. ตรวจสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยการหมั่นสังเกตอาการและตรวจสอบสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่เสมอ ซึ่งถ้าหากพบว่ามีกลิ่นไหม้ ทำงานผิดปกติ หรือมีสภาพเก่าแล้วล่ะก็ ควรจะเลิกใช้และซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่มาทดแทน

4. เลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน โดยควรจะเลือกซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฟิวส์ตัดกระแสไฟฟ้าในตัว และได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) 

5. เลิกใช้ไฟฟ้าเกินกำลัง โดยควรสังเกตุว่าปลั๊กรางสามารถรองรับการใช้ไฟฟ้าได้สูงสุดกี่วัตต์ และไม่ควรต่อปลั๊กรางเป็นทอด ๆ หรือต่อปลั๊กพ่วงหลายหัวในเต้าเสียบเดียวเป็นอันขาด

ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือจะเป็นอุปกรณ์การไฟฟ้า เป็นสิ่งที่ควรหมั่นตรวจเช็คเป็นอย่างยิ่ง เพราะชนวนที่อาจจะทำมาสู่การลัดวงจรมีต้นเหตุมาจากสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นเราจะควรที่จะเลือกดูสินค้าที่มีคุณภาพ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น และเพื่อป้องกันไม่ให้มีเลยนั่นเอง ดังนั้น เราจึงควรจะมาทำความรู้จักถึงลักษณะของอุปกรณ์การไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ควรนำมาใช้ ดังนี้

1. สายไฟฟ้า ควรมีเครื่องหมาย มอก. แปะติดไว้บนสายไฟฟ้าทุกเส้น 

2.ฟิวส์ ทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติหลอมละลายตัวเอง และฟิวส์จะต้องตัดกระแสไฟฟ้าเอง เมื่อกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านมีปริมาณเกินพิกัด 

3.บัลลาสต์ ซึ่งตัวนี้นั้น ถ้าหากใช้งานเป็นเวลานานมักจะร้อนจัด และส่งเสียงดังออกมา และเมื่อติดตั้งใหม่แล้วให้ลองเปิดไฟทิ้งไว้สักพัก ถ้ายังร้อนหรือมีเสียงดังผิดปกติ ไม่ควรใช้งานต่อ และควรควรเลือกซื้อบัลลาสต์ที่มีสัญลักษณ์เครื่องหมาย มอก. จะดีกว่าค่ะ

4.เต้ารับ-เต้าเสียบ ถ้าหากลองเสียบแล้วหลวม แตก หรือหัก ควรเปลี่ยนใหม่ทันที ไม่ควรใช้สายไฟฟ้าที่ไม่มีปลั๊กเสียบต่อกัน เพราะอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้ขึ้นได้ รวมถึงขณะถอดปลั๊กตัว ควรจับที่ตัวปลั๊กด้วย ไม่ควรดึงที่สายโดยตรง เพราะอาจทำให้สายไฟฟ้าด้านในขาดได้

5.เครื่องใช้ไฟฟ้า ถือว่เป็นสิ่งสำคัญอย่าง โดยอย่าตั้งใกล้วัสดุที่ติดไฟง่าย ไม่ควรเสียบปลั๊กทิ้งไว้โดยไม่มีผู้ดูแล ดังนั้น จึงควรถอดปลั๊กออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน 

ดังนั้นแล้วไฟฟ้าลัดวงจรจึงเป็นหนึ่งในปัญหาที่ควรจะตระหนักถึงอย่างมากในปัจจุบันเพราะถือว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นใกล้ตัวพวกเราอย่างมากโดยมีต้นเหตุมาจากการชำรุดของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้มาเป็นเวลานานหรืออาจจะเพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้คุณภาพเราควรมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าให้มั่นใจในุทกๆปีเพื่อความปลอดภัยซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ทำให้เกิดการลัดวงจรของไฟฟ้าจนนำไปสู่อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันอย่างอัคคีภัยหรือไฟดูดขึ้นได้นั่นเองดังนั้นไฟฟ้าลัดวงจรจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่เราควรจะตระหนักอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันของเรา