แสดงทั้งหมด 7 ผลลัพท์

เข็มขัดเซฟตี้ Safety Belt

ASTRO BOD FAST U HARNESS

฿0.00

Safety Tools

AVAO® BOD FAST

฿0.00

Safety Tools

CARITOOL

฿0.00

Safety Tools

PODIUM

฿0.00

Safety Tools

RING OPEN

฿0.00
฿0.00

อุปกรณ์การทำงานบนที่สูงครบชุด-ลดราคา-40

เข็มขัดเซฟตี้ (Full Body Harness)

เข็มขัดเซฟตี้ คือ อุปกรณ์ที่ป้องกันการตกจากที่สูง ใช้สำหรับการทำงานบนที่สูง อย่างเช่น การทำงานบนนั่งร้าน งานซ่อมเสาไฟ การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคา งานต่อเติมอาคารตึกสูง งานก่อสร้าง ฯลฯ เราสามารถใช้เข็มขัดเซฟตี้ เพื่อยึดเหนี่ยวป้องกันการตกหรือใช้ในการทรงตัวเมื่อต้องเดินบนที่สูง ส่วนใหญ่จะใช้ในงานก่อสร้างทั่วไป
 

เข็มขัดเซฟตี้ มีกี่แบบ

 
ในปัจจุบันเข็มขัดเซฟตี้ที่เราพบเห็นได้บ่อยที่สุดมี 2 แบบด้วยกันได้แก่ Full Body Harness เป็นเข็มขัดเซฟตี้เต็มตัวหรือสวมใส่ทั้งตัวและ Safety Belt เป็นเข็มขัดเซฟตี้ที่ใส่แค่บริเวณเอวหรือกลางลำตัว

 

Full Body Harness เข็มขัดเซฟตี้ที่เป็นชุดกันตกแบบสวมทั้งตัว

เข็มขัดเซฟตี้ประเภทนี้ มีหน้าที่ช่วยป้องกันการตกจากที่สูงและเป็นการเซฟที่ดีที่สุด มีลักษณะเป็นชุดกันตกแบบสวมทั้งตัว มีจุดคล้องเชือก คล้องห่วงเซฟตี้ที่ดึงรั้งหรือพยุงหลายจุด หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นเข็มขัดเซฟตี้จะสามารถรองรับน้ำหนักและเพื่อพยุงผู้ใช้งานไว้ ซึ่งจะอยู่ได้นานพอเพื่อรับการช่วยเหลือในลำดับต่อไป ทำให้เข็มขัดเซฟตี้แบบเต็มตัวนั้นเหมาะที่จะใช้ในการทำงานบนที่สูงได้ทุกระดับและทุกประเภทงาน แต่ข้อเสียของเข็มขัดเซฟตี้แบบเต็มตัวคือ หากต้องสวมใส่เป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดความไม่คล่องตัวและรู้สึกเกะกะ ทำงานไม่สะดวก หรือเคลื่อนไหวไม่สะดวก แต่ในการปฏิบัติงานบนที่สูงนั้นมีความเสี่ยง แม้ว่าเข็มขัดเซฟตี้แบบเต็มตัวอาจทำให้ใครหลายคนไม่สะดวกแต่ก็เป็นอุปกรณ์ป้องกันการตกจากที่สูงที่ดีและมักจะเป็นตัวแรกที่ได้รับการพิจารณา อีกทั้งยังมีจุดรับน้ำหนักหลายจุดจึงช่วยป้องกันการกระแทกได้ดี

petzl shop safesiri heightthai

ข้อดีของกลุ่มขัดเซฟตี้แบบเต็มตัว

  1. เข็มขัดเซฟตี้แบบเต็มตัวนั้นเหมาะกับงานบนที่สูงทุกประเภท เนื่องจากสามารถดึงรั้งและติดตั้งห่วงนิรภัยได้หลายจุดจึงทำให้เหมาะกับการทำงานบนที่สูงได้ทุกประเภทเลย อย่างเช่น งานซ่อมหรืองานติดตั้งสายไฟ งานเช็ดกระจกบนที่สูง งานก่อสร้างต่างๆ
  2. ป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงานบนที่สูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานหากมีระดับสูงมากเท่าไหร่ ก็มีความเสี่ยงมากเท่านั้น ดังนั้น การเลือกซื้อก็ต้องเลือกให้แน่นหนา ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี เข็มขัดเซฟตี้แบบเต็มตัวสามารถป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงานบนที่สูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. ชุดเข็มขัดเซฟตี้แบบเต็มตัว มีจุดรับน้ำหนักหลายจุด อาจมากถึง 4-6 จุดในชุดเดียวกันเลยทีเดียว ต่างจากชุดนิรภัยแบบครึ่งตัวจึงทำให้มีความปลอดภัยและทำให้เพิ่มความมั่นใจมากกว่า
  4. เหมาะกับงานบนที่สูงทุกๆ ระดับ ชุดเซฟตี้แบบเต็มตัวนั้นเหมาะกับการทำงานบนที่สูงได้ทุกระดับมีจุดที่รับน้ำหนักได้เยอะสามารถรองรับสรีระได้ทุกส่วนของร่างกาย ทำให้ชุดเซฟตี้แบบเต็มตัวสามารถทำงานบนที่สูงได้ทุกระดับเลย

Safety Belts หรือ เข็มขัดเซฟตี้แบบครึ่งตัว

เข็มขัดเซฟตี้ประเภทนี้จะเหมาะกับการทำงานบนพื้นที่ ซึ่งสูงไม่มากนัก เช่น การทำงานบนพื้นที่ที่มีความสูงไม่เกิน 4 เมตรเนื่องจากจุดดึงรั้งของเข็มขัดเซฟตี้ชนิดนี้จะมีการรัดเฉพาะบริเวณที่เอวและช่วงกลางของลำตัวเท่านั้น ทำให้ไม่แน่นหนา อาจไม่เหมาะกับการทำงานบนที่สูงกว่า 4 เมตรขึ้นไปแต่ก็มีข้อดีคือทำให้มีความคล่องตัวในการทำงาน ไม่เกะกะ สวมใส่ง่าย ถอดออกได้ง่ายเช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่าเข็มขัดเซฟตี้แบบครึ่งตัวนั้นช่วยทำงานได้สะดวกมากกว่า ใช้เวลา set up และติดตั้งไม่นานด้วย


การใช้งานเข็มขัดเซฟตี้

  • ขั้นตอนแรก นำเข็มขัดเซฟตี้มารัดเอวแต่หากเป็นชนิดสวมใส่แบบเต็มตัวก็สามารถสวมใส่ได้เลยเลือกที่เหมาะสม ใส่ได้พอดีและปรับล็อคสายรัดให้เรียบร้อย
  • นำตะขอเกี่ยวกับจุดยึด ซึ่งมีค่าอย่างน้อย 25-30KN ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูง

การรักษาเข็มขัดเซฟตี้

  • การทำความสะอาดเข็มขัดเซฟตี้นั้นง่ายมากเพียงใช้น้ำสบู่ล้างแล้วขัดด้วยแปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม
  • แนะนำให้เก็บเข็มขัดเซฟตี้ไว้ห่างจากแสงแดดที่ร้อนจัดหรือเก็บไว้ในที่ร่ม
อย่างไรก็ตาม เข็มขัดเซฟตี้ในแต่ละแบบ ทั้งเข็มขัดเซฟตี้แบบครึ่งตัวและเข็มขัดเซฟตี้แบบเต็มตัว ต่างก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ลักษณะการใช้งานไม่เหมือนกันหรือการใช้งานบนที่สูงไม่เหมือนกัน ราคาก็แตกต่างกันออกไปด้วยขึ้นอยู่กับคุณภาพ สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือเราต้องรู้และเลือกเข็มขัดเซฟตี้ให้เหมาะสมกับงานที่ทำ

 

ความสำคัญของเข็มขัดเซฟตี้(Full Body Harness) กับการทำงานบนที่สูง

การทำงานบนที่สูง หมายถึง การทำงานบนพื้นที่สูง โดยสูงจากพื้นดินมากกว่า 2 เมตรขึ้นไป อาจเป็นพื้นหรือโครงสร้างหรือสิ่งปลูกสร้างทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นแบบชั่วคราวหรือแบบถาวรที่มีความสูงเหนือพื้นดิน การทำงานบนที่สูงนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการพลัดตกจากที่สูง สำหรับความรุนแรงเมื่อตกลงจากที่สูงนั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งของร่างกายที่ลงกระแทกพื้น ดังนั้น อาจทำให้มีโอกาสบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้เลย ดังนั้น เข็มขัดนิรภัย จึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการทำงานบนที่สูงด้วยความที่การทำงานบนที่สูงนั้นมีความเสี่ยง จึงได้มีกฎหมายเกี่ยวกับการทำงานบนที่สูง การทำงานบนที่สูงตามกฎกระทรวงปี 2564 กฎหมายได้ระบุไว้ว่าหากมีการปฏิบัติงานบนที่สูงนั้นจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับให้เกิดความปลอดภัย โดยหลักๆ มีดังต่อไปนี้
  1. นายจ้างจะต้องมีการจัดอบรมเกี่ยวกับการทำงานบนที่สูงให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกคน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานนั้นเกิดความรู้ความเข้าใจ ตระหนักถึงความปลอดภัย รวมถึงความไม่ประมาท ตลอดจนได้เรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ Safety ก่อนปฏิบัติงานจริง อย่างเช่น การสวมใส่เข็มขัดนิรภัยหรือเข็มขัดเซฟตี้อย่างถูกวิธี การเลือกชนิดให้เหมาะสม เป็นต้น
  2. นายจ้างจะต้องปฏิบัติตามคู่มือเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์เพื่อป้องกันอันตราย ในกรณีที่ไม่มีคู่มือจะต้องให้วิศวกรที่มีใบอนุญาตจัดทำขึ้น
  3. นายจ้างต้องจัดให้มีอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยส่วนบุคคลหรือ PPE ที่มีมาตรฐาน เช่น เชือกนิรภัย หมวกนิรภัย เข็มขัดนิรภัย หรือเข็มขัดเซฟตี้ ถุงมือ ฯลฯ
  4. นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจสอบอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย เพื่อให้อุปกรณ์เหล่านั้นพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
  5. หากพนักงานต้องทำงานบนที่สูงเกิน 4 เมตร นายจ้างจะต้องจัดทำราวกันตก ตาข่ายนิรภัย รั้วกันตก อุปกรณ์ป้องกันอันตรายที่เหมาะสมกับการทำงานในพื้นที่นั้นๆ อย่างเช่น การสวมใส่เข็มขัดเซฟตี้ชนิดเต็มตัว
  6. สำหรับการทำงานบนที่สูงเกิน 2 เมตรต้องมีการป้องกันการตกหล่นให้ดีอย่างรัดกุมและมีการติดตั้งนั่งร้านให้ได้มาตรฐาน
สำหรับนายจ้างเองก็ต้องตรวจสอบให้ดีว่าลูกจ้างมีการปฏิบัติงานอย่างถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ ใช้เข็มขัดเซฟตี้ชนิดที่ถูกต้องกับลักษณะงานที่ทำหรือไม่ อย่างไร ควรให้คำแนะนำแก่ลูกจ้างหรือผู้ปฏิบัติงาน ให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายด้านความปลอดภัยจะทำให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุและลดความสูญเสียลงได้