ไฟฉุกเฉิน Emergency Light
฿1,950.00
ไฟฉุกเฉิน Emergency Light
฿1,600.00
ไฟฉุกเฉิน Emergency Light
฿1,850.00
การทำงานของไฟฉุกเฉิน
ไฟฉุกเฉิน คือ อุปกรณ์ให้แสงสว่างสำรองภายในอาคาร โดยจะติดสว่างขึ้นมาอัตโนมัติหากเกิดเหตุไฟฟ้าดับ ไฟฉุกเฉิน การทำงานจะอาศัยไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ แบตเตอรี่มักเป็นตะกั่ว-กรด ซึ่งชาร์จอยู่ภายในบ้านตลอดเวลา เพื่อให้พร้อมใช้งานทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟดับ ภายในไฟฉุกเฉินประกอบด้วยแบตเตอรี่ นอกจากนั้นยังมี วงจรชาร์จ สวิตช์อัตโนมัติมักเป็นรีเลย์หรือทรานซิสเตอร์ และหลอดไฟ ในสถานการณ์ปกติที่มีไฟฟ้า วงจรจะประจุแบตเตอรี่ให้มีไฟเต็มตลอดเวลา สำหรับสสวิตช์อัตโนมัติจะตัดวงจรของหลอดไฟไว้เพื่อไม่ให้ทำงาน
แต่เมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าดับ ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใดก็ตาม วงจรชาร์จจะหยุดการทำงาน ส่วนสวิตช์อัตโนมัติจะทำการต่อเข้ากับหลอดไฟเข้ากับแบตเตอรี่ ทำให้ไฟฉุกเฉิน ติดสว่างขึ้นมา จนเมื่อไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้อีกครั้ง วงจรชาร์จจะกลับมาทำงาน สวิตช์อัตโนมัติจะทำการตัดวงจรหลอดไฟออก ทำให้ไฟฉุกเฉินดับลง ไฟฉุกเฉิน มักถูกติดตั้งในอาคาร ที่อยู่อาศัยสมัยใหม่ หอพักโรงแรม คอนโด อพาร์ทเม้นต์ โรงงานอุตสาหกรรมเป็นไปตามกฎหมายเพื่อความปลอดภัย
ไฟฉุกเฉิน LED
ไฟฉุกเฉิน LED มีข้อดีหลายอย่าง คำว่า LED ย่อมาจาก Light Emitting คือ ไดโอดเปล่งแสงที่สามารถเปล่งแสงออกมาได้ โดยแสงที่ส่องสว่างออกมานั้นจะประกอบไปด้วยคลื่นความถี่เดียวกันและมีเฟสอย่างต่อเนื่อง แม้กระแสไฟฟ้าจะมีเพียงเล็กน้อยแค่ ไฟฉุกเฉิน LED ก็สามารถเปล่งแสงออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง หมายถึงเปล่งแสงออกมามากให้แสงสว่างสูงนั่นเอง
ข้อดีของการมีไฟฉุกเฉิน LED
-
- ไฟฉุกเฉิน LED ช่วยให้ประหยัดไฟได้มากถึง 75 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว สำหรับอายุการใช้งานนั้นก็มากกว่า 5 หมื่นชั่วโมงเลยทีเดียว
- ไฟฉุกเฉิน LED ช่วยให้อาคารลดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากปล่อยความร้อนออกมาน้อยมาก
- ไฟฉุกเฉิน ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ ไม่เกิดภาวะเรือนกระจก จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ไฟฉุกเฉิน LED สามารถให้แสงสว่างโดยปราศจากรังสียูวี ไม่มีผลทำให้สีของวัตถุ ภาพเขียน ภาพวาด หรือทำให้พื้นผิวเกิดความเสียหาย
- ไฟฉุกเฉิน LED ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน ไม่เปราะบางง่าย วัสดุทำจากอลูมิเนียมและอคิลิค
- ไฟฉุกเฉิน LED ลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง การติดตั้งง่าย ไม่ยุ่งยาก สำหรับการบำรุงรักษานั้นง่ายเช่นกัน
- ไฟฉุกเฉิน LED ทำให้สบายตา ไม่แสบตาและปลอดภัยต่อสุขภาพ เนื่องจากให้แสงที่บริสุทธิ์ ไม่กะพริบ
ขั้นตอนการใช้งานไฟฉุกเฉิน
ก่อนใช้งาน- ศึกษาจากคู่มือการใช้งานเนื่องจากไฟฉุกเฉิน แต่ละรุ่นนั้นหรือแต่ละยี่ห้อ อาจมีการใช้งานแตกต่างกัน
- การติดตั้งไฟฉุกเฉิน จะต้องคำนึงถึงชนิดแบตเตอรี่ เช่น ถ้าเป็นแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น ควรติดตั้งบริเวณที่โล่งหรือตามทางเดิน ติดตั้งในพื้นที่ที่อากาศระบายได้ดี ถ่ายเทสะดวก เนื่องจากตลอดเวลาที่มีการประจุไฟฟ้าเข้าไปที่แบตเตอร์รี่จะเกิดไอตะกั่วระเหยออกมา หากนำไฟฉุกเฉิน ไปติดตั้งในสถานที่ที่อากาศไม่ถ่ายเทอาจมีอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้ สำหรับห้องที่อากาศไม่สามารถถ่ายเทได้ดี แนะนำให้ติดตั้งไฟฉุกเฉิน ชนิดแบตเตอรี่แห้ง เป็นต้น
- ในกรณีที่เป็นไฟฉุกเฉิน ใช้แบตเตอร์รี่แบบเติมน้ำกลั่นต้องทำการตรวจสอบระดับน้ำกลั่นทุกๆ 1 เดือน
- ระหว่างการใช้งานต้องทดสอบว่าไฟฉุกเฉิน สามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ โดยให้กดปุ่ม Test ทุก 1 เดือน เพื่อดูว่าไฟติดหรือไม่ แต่บางรุ่นอาจไม่มีปุ่ม Test จะต้องถอดปลั๊กออก
- ควรให้แบตเตอรี่มีการคายประจุไฟฟ้าจนหมด ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ โดยเปิดเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 6 เดือนต่อเครื่อง
- ในกรณีที่ไฟฟ้าดับในช่วงกลางวันแล้วมีการปิดสวิตช์ไว้ไม่ให้หลอดไฟสว่าง เมื่อไฟฟ้าจ่ายปกติแล้วให้เปิดสวิตช์ หากไม่เช่นนั้นไฟฉุกเฉิน จะไม่ประจุเข้าแบตเตอรี่
- ควรตรวจสอบระดับของน้ำกลั่นทุกๆ 14 วันหรือ 2 สัปดาห์
- ทดสอบการทำงานของเครื่อง โดย test เครื่องทุกๆ 1 เดือน
- ทำความสะอาดดวงโคมทุก 2 สัปดาห์
- คายประจุแบตเตอรี่ให้หมดทุก 6 เดือน
ข้อแนะนำในการเลือกไฟฉุกเฉิน
-
- เลือกหลอดไฟ LED
-
- ระบบการชาร์จ
-
- ระยะเวลาไฟสำรอง
-
- มีคุณภาพได้มาตรฐาน
-
- วัสดุต้องมีคุณภาพ
-
- ดูที่แบตเตอรี่
-
- มีการรับประกันสินค้า