หลักการและเหตุผล
สถิติการประสบอันตรายอันเนื่องมาจากการทำงานของสำนักงานประกันสังคมในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2542-2551) พบว่ามีแนวโน้มลดลง โดยอัตราการประสบอันตรายทุกกรณีต่อลูกจ้าง 1,000 คน ในปี 2542 สูงถึง 32.3 ต่อ 1,000 คน ซึ่งมีแนวโน้มลดลง เรื่อยๆ จนกระทั่งปี 2551 ลดลงเหลือ 21.7 ต่อ 1,000 คน หากพิจารณาเฉพาะกลุ่มที่ประสบอันตรายกรณี ร้ายแรง (ตาย ทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะบางส่วน และหยุดงานเกิน 3 วัน) จะพบว่า มีแนวโน้มลดลง เช่นกัน จากอัตรา 10.2 ต่อ 1,000 คนในปี 2542 เหลือ 6.1 ต่อ 1,000 คน ในปี 2551 (ดร.วิภาวี ศรีเพียร, 2553)
จากสถิติดังกล่าวการลดลงของอุบัติเหตุเกิดจากการบริหารจัดการภายในกิจการหรือสถานประกอบการที่มีประสิทธิภาพในด้านต่างๆ อาทิเช่น
1. เปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังอุบัติเหตุและตรวจสอบระบบการป้องกันอุบัติเหตุในโรงงานอุตสาหกรรม
2. โรงงานอุตสาหกรรมได้สร้างอาคารถูกต้องตามหลักวิศวกรรม รวมถึงมีการออกแบบและติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยอย่างเหมาะสม
3. มีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย กฎระเบียบและหลักความปลอดภัยในการทำงาน
4. รณรงค์ให้นายจ้างและลูกจ้างในสถานประกอบการ ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันอุบัติเหตุ ให้มีความรู้และมีทักษะในการป้องกันอุบัติเหตุ อุบัติภัย และโรคที่เกิดจากการทำงาน
5. เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ดูแลความปลอดภัยให้คำปรึกษากับนายจ้าง ตรวจตราสถานการณ์และความเสี่ยงในการทำงาน และแนะนำลูกจ้างและแนะนำลูกจ้างในการดูแลตนเองขณะทำงานไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือป้องกันไม่ให้เป็นโรคจากการทำงาน
6. มีการดำเนินงานตามมาตรฐานสากลทางด้านความปลอดภัย อนุกรมมาตรฐานคุณภาพ (ISO 9000) อนุกรมมาตรฐานการจัดการระบบอาชีวอนามัยความปลอดภัย (มอก.18000) (โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม, 2563)
ดังนั้นเพื่อให้กิจการหรือสถานประกอบการสามารถควบคุมและป้องกันอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กิจการหรือสถานประกอบการควรดำเนินการจัดฝึกอบรม หลักสูตร การวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัยด้วยเครื่องมือ (JSA) เพื่อให้ลูกจ้างได้รับทราบแนวทางการค้นหาอันตรายและเกิดความตระหนักในการป้องกันอันตรายที่ยังไม่เกิดขึ้น
วัตถุประสงค์
1) เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความตระหนักถึงความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุ
2) เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจและสามารถประเมินความเสี่ยงด้วยเทคนิค JSA ได้
3) เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถพิจารณาวิธีการป้องกันอันตรายจากการประเมินความเสี่ยงได้
4) เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำ การประเมินความเสี่ยงที่พัฒนาแล้วไปประยุกต์ใช้งานได้
คุณสมบัติผู้เข้าอบรม
หัวหน้างาน, เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย, พนักงานระดับปฏิบัติงาน หรือผู้ที่สนใจ
จำนวนผู้เข้าอบรม/รุ่น จำนวน 1-30 ท่าน/รุ่น
วิธีการฝึกอบรม บรรยาย / กรณีศึกษา / ฝึกภาคปฏิบัติ
วิธีการประเมินผลและเกณฑ์การวัดผล - ระยะเวลาเข้ารับการฝึกอบรม 100% จำนวน 6 ชั่วโมง - แบบทดสอบก่อน และหลังการฝึกอบรม
สิ่งที่จะได้รับหลังการอบรม วุฒิบัตรผ่านการอบรม
กำหนดการฝึกอบรม หลักสูตร การวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัยด้วยเครื่องมือ (JSA)
เวลา | รายละเอียด |
---|---|
08.30-09.00 น. | ลงทะเบียน
ทำแบบทดสอบก่อนการฝึกอบรม |
09.00-10.30 น. | ภาคทฤษฎี (1) สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสีย (2) ประโยชน์ของการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย |
10.30-10.45 น. | พักเบรค |
10.45-12.00 น. | (3) ขั้นตอนการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย (4) Form JOB SAFETY ANALYSIS – เลือกงาน (Select) ที่จะทำการวิเคราะห์ – แตกงาน (Step) ที่จะวิเคราะห์เป็นลำดับขั้นตอน – ค้นหาอันตราย (Identify) ที่แฝงอยู่ในแต่ละขั้นตอน – พัฒนา (Develop) เพื่อหามาตรการในการแก้ไขปัญหา |
12.00-13.00 น. | พักรับประทานอาหาร |
13.00-14.30 น. | (5) การนํา JSA ที่พัฒนาแล้วไปใช้ (6) กรณีศึกษาการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย |
14.30-14.45 น. | พักเบรค |
14.45-16.00 น. | ภาคปฏิบัติกิจกรรมกลุ่ม (7) การวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัยในพื้นที่ปฏิบัติงาน ตอบข้อซักถาม – ทำแบบทดสอบหลังการฝึกอบรม |
บทความและหลักสูตรที่น่าสนใจ
- การวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย JSA Job Safety Analysis
- หลักสูตร ความปลอดภัยในการใช้งานรถกระเช้า Boom Lift และ X Lift
- หลักสูตร การหยั่งรู้ระวังอันตรายเพื่อความปลอดภัย KYT
- หลักสูตร เทคนิคการโรยตัวทำงานด้วยระบบเชือก
- หลักสูตร ความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูงสำหรับผู้ปฏิบัติงาน
- หลักสูตร การทำงานบนที่สูง เสาส่งสัญญาณ Tower Climber
- เทคนิคการจัดทำ JSA