เหตุผลที่จะต้องทำการอบรมการทำงานกับปั้นจั่น

ทำไมเราต้องอบรมการทำงานกับปั้นจั่น ?

ทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้ต่างมีเหตุผล ไม่ว่าจะ ทำไมฝนจึงตก ทำไมแดดจึงออก ทำไมน้ำจึงไหล ทำไมไฟจึงมา ทำไมฟ้าจึงสว่าง ล้วนแล้วแต่มีคำตอบทั้งสิ้น เพราะแบบนี้จึงอยากจะบอกให้รู้ว่า การทำงานกับเครื่องจักรประเภทหนึ่งอย่าง ‘ปั้นจั่นหรือเครน’ ก็มีเหตุผลที่ว่า ทำไมจะต้องทำการอบรมการทำงานด้วยทั้งๆ ที่ผู้ใช้งานอาจจะทำงานมานับหลายปีคลุกคลีกับเจ้าเครื่องจักรชนิดนี้จนจะเรียกว่าลูกได้ แต่ในการทำงานจะเพียงคลุกคลีตีโมงอย่างเดียวมันก็เฟี้ยวเงาะไม่พอน่ะสิ มันจะต้องมีเติมพลังหรือเติมวิตามินด้วยถึงจะดี 

การอบรมเรื่องการทำงานกับปั้นจั่นจะเป็นการกินวิตามินเสริม เพื่อให้ร่างกายที่ฟิตอยู่แล้วยิ่งฟิตเปรี๊ยะมากขึ้น อะไรที่รู้อยู่แล้วก็รู้มากขึ้น จากที่เคยลูบคลำทั้งวี่ทั้งวันแทบจะหลับตาจับได้นั้นก็จะยิ่งกว่าใช้กระแสจิตสั่งการเลยล่ะ เพราะความรู้มันไม่มีคำว่าสิ้นสุด ตักตวงมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้มีมากเท่านั้น

ยกตัวอย่างความรู้ที่น่าจะรู้อยู่แล้วที่จะได้รับเพิ่มเสริมให้แน่นเมื่อเข้ารับการอบรม เรื่องการใช้ปั้นจั่นหรือเครนและสลิง ในการยกหรือเคลื่อนย้ายวัตถุสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก จำเป็นจะต้องใช้ปั้นจั่นหรือเครนและอุปกรณ์อื่นๆ แล้วผูกน้ำหนักของวัตถุหนักๆ กับลวดและใช้สลิงเกี่ยว ซึ่งงานชนิดนี้จะต้องใช้ผู้ที่ได้รับฝึกอบรมเป็นอย่างดี หากไม่ได้รับการฝึกฝนและไม่มีความชำนาญจะไม่สามารถทำได้ โดยการใช้งานปั้นจั่นหรือเครนและสลิง จะมีรายละเอียดคร่าวๆ คือ ปั้นจั่นหรือเครนที่มีขนา 5 ตันหรือมากกว่า จะต้องมีพนักงานขับปั้นจั่นหรือเครนที่มีใบอนุญาตสำหรับใช้ปั้นจั่นหรือเครนที่ใช้บนที่สูงและปั้นจั่นหรือเครนที่มีขนาดต่ำกว่านั้นจะอนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะพนักงานที่ได้ผ่านหลักสูตรทางเทคนิคที่กำหนดหรือการฝึกอบรมเป็นพิเศษเท่านั้น

ส่วนการทำงานสลิง พนักงานที่จะปฏิบัติงานนี้จะต้องเป็นผู้ผ่านหลักสูตรทางเทคนิคที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งอนุญาตให้ทำงานกับสลิงที่มีน้ำหนัก 1 ตันหรือมากกว่า หากงานสลิงที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 1 ตัน พนักงานจะต้องเป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งและผ่านการอบรมหลักสูตรพิเศษด้วย ถ้าพนักงานนั้นได้ถูกกำหนดให้เป็นผู้ช่วย พนักงานผู้นั้นควรมีการปรึกษาหารือในการเตรียมการและวิธีการให้สัญญาณกับหัวหน้าที่มีคุณสมบัติเหมาะสม พร้อมกับปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้าอย่างเคร่งครัด ด้านเครื่องมือประกอบปั้นจั่นหรือเครนและสลิงก็จะต้องได้รับการตรวจสอบตามที่กำหนดทั้งก่อนและระหว่างการใช้งาน ถ้าพบความผิดปกติให้หยุดการใช้งานโดยทันทีและรายงานหัวหน้างาน เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการซ่อมแซม 

เรื่องการบรรทุกน้ำหนักให้หลีกเลี่ยงการบรรทุกน้ำหนักเกิน การแขวนควรแขวนในลักษณะทแยงมุมและห้อยแขวนที่จุดเดียว ในการปฏิบัติงานควรตรวจดูสลิงให้แน่นหนาและมีการขึงลวดอย่างถูกต้องก่อนการยกวัตถุสิ่งของ เมื่อยกน้ำหนักพ้นพื้นเพียงเล็กน้อยก็ให้หยุดปั้นจั่นหรือเครน แล้วตรวจสอบสลิงอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย จากนั้นจึงยกน้ำหนักให้สูงขึ้นในระดับที่ปลอดภัยก่อนจะเคลื่อนย้ายต่อไป ทุกครั้งที่ปฏิบัติงาน พนักงานควบคุมจะต้องไม่ละสายตาไปตาสวิตซ์ทั้งในระหว่างการปฏิบัติงานและเมื่อได้ยกน้ำหนักขึ้นแล้ว ด้านการให้สัญญาณก็ให้ดำเนินการตามปกติ ในเรื่องความปลอดภัยในการยกวัตถุสิ่งของ ของที่จะยกขึ้นจะต้องไม่ถูกยึดติดกับสิ่งใดหรือถูกสิ่งอื่นทับอยู่ ห้ามใช้ปั้นจั่นหรือเครนในการลาก ดึง วัตถุสิ่งของโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้ปั้นจั่นหรือเครนล้มได้ นอกเหนือจากนั้นก็ต้องห้ามคนนั่งหรือขึ้นไปกับวัตถุสิ่งของที่จะยกเด็ดขาด เนื่องจากสลิงอาจจะขาดได้ทุกเมื่อและก็ต้องแจ้งให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานออกจากพื้นที่ก่อนจะมีการยกขึ้น ยกเว้นจะได้รับมอบหมายและอบรมการทำงานกับบริเวณที่มีอันตราย แล้วก่อนจะหมุนเคลื่อนที่หรือหมุนวัตถุสิ่งของที่ยก ผู้ควบคุมหน้างานจะต้องดูรัศมีที่จะหมุนไปไม่ให้มีอะไรมากีดขวางหรือเป็นอันตรายต่อผู้ทำงาน เพราะอาจมองไม่เห็นชัดเจน สุดท้ายจะต้องไม่อนุญาตให้ผู้ใดหรือแม้แต่ตัวพนักงานเองอยู่ใต้จุดน้ำหนักที่กำลังยกขึ้น เมื่อปฏิบัติงานเรียบร้อยก็จัดปั้นจั่นหรือเครนให้อยู่ในตำแหน่งเดิมเหมือนตอนเริ่มต้น

ทีนี้รู้และเข้าใจหรือยังว่า เหตุผลที่จะต้องทำการอบรมการทำงานปั้นจั่นหรือเครนอยู่ตรงไหน…ก็ตรงที่…ความอิ่มอย่างไรล่ะ อิ่มความรู้อย่างแทบจะล้นแถมยังเน้นจนแน่น รับรองได้เลยว่าไม่มีใครจะสามารถขโมยความรู้เหล่านี้ไปจากคุณได้แน่นอน