ควรอบรมโฟล์คลิฟท์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการดูแลรักษาเบื้องต้น

เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการดูแลรักษาเบื้องต้น สำหรับรถโฟล์คลิฟต์

คงไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่ยอมหมดสมรรถภาพ ยิ่งเมื่อในปัจจุบันการแข่งขันมีอย่างสูงในแวดวงต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่วงการแรงงาน นั่นก็ยิ่งจะทำให้ผู้คนที่ยังต้องทำงานในหน่วยงานและองค์กรจำเป็นจะต้องหมั่นเร่งพัฒนาตนเองและทำให้ศักยภาพของตนเองไม่ถดถอยด้อยค่า มีอะไรใหม่ๆ ดีๆ ก็จะคว้าไว้ บางคนถึงกับเสาะหาอยู่เนืองๆ เลยทีเดียว เรียกว่าไม่ยอมหยุดนิ่งอยู่กับที่

การอบรมก็เช่นกันถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะเหมาะกับบุคลากรผู้ชอบเสาะหาความรู้ใหม่ๆ อีกทั้งยังช่วยเหลือตัวองค์กรและตัวบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ เพราะแบบนี้หลายๆ องค์กรจึงได้เล็งเห็นความสำคัญและไม่รีรอเรื่องนี้ ถึงแม้ในองค์กรหนึ่งๆ จะมีมากแผนกแยกส่วนกันออกไป ซึ่งแต่ละแผนกก็มีบุคลากรไม่ใช่น้อย ทว่าหากทุกคนทุกแผนกพร้อมที่จะพัฒนาเดินไปข้างหน้าด้วยกัน แล้วหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันและกันเสริมสร้างความรู้ความสามารถ องค์กรนั้นๆ ก็จะเต็มไปด้วยคำว่า ประสิทธิภาพ เช่นกัน การอบรมเรื่องโฟล์คลิฟท์ก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับองค์กรที่มีกิจการข้องเกี่ยวกับทำงานในด้านนี้และมีบุคลากรที่จำเป็นจะต้องใช้พาหนะชนิดนี้  

เมื่อบุคลากรเข้ารับการอบรมก็จะได้เรียนรู้มากมาย อาทิ กฎหมายด้านความปลอดภัยในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานรถโฟล์คลิฟท์, ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับรถโฟล์คลิฟท์ที่ผู้ใช้งานจะต้องรู้, กฏจราจรและข้อห้ามรวมถึงเครื่องหมายต่างๆ ที่มักจะใช้ในสถานที่ทำงาน, การใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่จะต้องใช้, ส่วนประกอบกับอุปกรณ์และแผงควบคุมพร้อมระบบไฟเตือนต่างๆ ของรถโฟล์คลิฟท์, การขับรถโฟล์คลิฟท์อย่างปลอดภัยและถูกวิธี, การปฏิบัติพื้นฐานเมื่อรถโฟล์คลิฟท์เกิดเสีย, แล้วก็การวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการทำงานของรถโฟล์คลิฟท์ เป็นต้น 

นอกจากนี้ ในการอบรมยังให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการดูแลรักษารถโฟล์คลิฟท์ ซึ่งหลักๆ จะมีดังนี้ ได้แก่ การตรวจดูความสะอาดภายนอก, การตรวจระดับน้ำในหม้อน้ำและหม้อพักน้ำ, การตรวจระดับน้ำมันเครื่อง, การตรวจดูระดับน้ำมันเชื้อเพลิง,

การตรวจดูระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ, การตรวจระดับน้ำมันไฮโดรลิค, การตรวจระดับน้ำมันเกียร์พวงมาลัย, การตรวจดูระดับน้ำมันเบรค การตรวจระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ การตรวจความตึงของสายพานเครื่องยนต์ การตรวจการทำงานของเบรคมือและขาเบรค, การตรวจระบบสัญญาณไฟเลี้ยว ไฟถอยหลัง ไฟส่องสว่างและสัญญาณแตร, การตรวจสภาพความตึงของโซ่ยกของ, การตรวจสภาพยางรถโฟล์คลิฟท์, การตรวจวัดลมยางและเติมให้ได้แรงดันตามที่กำหนดไว้, การตรวจรอยรั่วซึมตามจุดต่างๆ , แล้วก็อาจจะมีความรู้เสริมในการตรวจเช็คขณะติดเครื่องยนต์ เช่น การตรวจเช็คว่ามีเสียงดังผิดปกติจากเครื่องยนตืหรือไม่, การตรวจดูไฟที่หน้าปัดดับหมดหรือไม่, การตรวจระยะฟรีของพวงมาลัยและการบังคับเลี้ยว, การตรวจการทำงานของชุดควบคุมอุปกรณ์ยกงาว่าทำงานเรียบร้อยหรือไม่, และหลังการใช้งานก็มีข้อปฏิบัติที่ดีคือ ควรเติมน้ำมันให้เต็มถังเพื่อพร้อมการใช้งานในวันต่อไป ควรปลดเกียร์ว่างไว้เสมอและดึงลูกกุญแจรถออกเก็บยังที่เก็บกุญแจ ต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องจำเป็นจะต้องรู้ทั้งนั้น 

จะเห็นแล้วว่า เนื้อหาสาระที่มักจะมีในการอบรมเกี่ยวกับรถโฟล์คลิฟท์นั้นมีเยอะไม่น้อย หากพลาดการอบรมอาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรขาดตกบกพร่องได้ จริงอยู่ที่การขับรถหรือยานพาหนะชนิดใดก็ตามเป็นความสามารถที่เมื่อเคยเรียนรู้แล้วก็จักติดตัว แต่มันคงจะดีกว่าถ้าได้เติมเต็มความสามารถที่มีอยู่เดิมให้แน่นขึ้น ของเหล่านี้ไม่เสียหลายหรอก ยิ่งมีติดตัวมากเท่าใดยิ่งเจ๋งยิ่งเยี่ยมยุทธ แล้วหน่วยงานใดมีผู้เยี่ยมยุทธเรื่องการขับรถโฟล์คลิฟท์หลายคนแถมด้วยไม่เคยทำความเสียหายใดๆ ต่อพาหนะที่รับผิดชอบและต่อวัสดุในงาน รู้ไปถึงไหนหน่วยงานนั้นก็เปล่งประกายเป็นที่กล่าวขานระบือไกลจนหน่วยงานอื่นอาจจะถึงกับอิจฉาตาร้อนอยากจะมีบุคลากรเยี่ยมยุทธแบบเดียวกันก็ได้  

นี่ไงข้อดีที่ดีจริงๆดีแบบจับต้องได้ด้วยไม่ต้องโม้น้ำลายแตกฟองให้เจ็บคอมันมีแต่ได้กับได้ได้ประสิทธิภาพในการทำงานได้ความเยี่ยมยุทธได้ความสุขของพวกนี้มันเป็นรูปธรรมก็จริงนะแต่มันไม่หายไปไหนเกิดแล้วก็ยังคงอยู่เพียงแค่ขอให้เห็นความสำคัญเสมอๆอย่าทิ้งหรือปล่อยร้างการอบรมเท่านี้ก็จะทำให้ดำรงความมีประสิทธิภาพมิเสื่อมคลาย