ถึงแม้ว่าเราจะทำงานในส่วนที่ไม่เป็นอันตรายอย่างเช่น ทำงานในออฟฟิศหรือทำงานในส่วนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์หรือเครื่องจักรหนักต่าง ๆ แต่เราก็ควรที่จะทำการอบรมและเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยในโรงงานอย่างต่อเนื่อง การป้องกันตนเองดีกว่าการที่เราไปแก้ไขทีหลัง การป้องกันตนเองถือว่าเรานั้นสามารถที่จะเรียนรู้ปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเราทั้งที่ทำงานและทั้งที่พักอาศัย การอบรมเรียนรู้ต่าง ๆ ถือว่าเป็นการประกอบวิชาชีพของตนเองให้มีความรู้ความเข้าใจ ที่จะอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น การเรียนรู้การใช้อุปกรณ์ในความปลอดภัยต่าง ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับทุกคน เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่หรือตอนไหนก็ได้ด้วยทั้งนั้น เราจำเป็นที่จะต้องอบรมเรื่องความปลอดภัยกันอย่างสม่ำเสมอ
การอบรมความปลอดภัยได้กี่ส่วน
การอบรมความปลอดภัยโดยหลักการจัดแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่คือ การอบรมในเรื่องของทฤษฎี การเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสัญญาณแจ้งเหตุการณ์ไฟไหม้ สัญญาณแจ้งเหตุแผ่นดินไหวหรืออุทกภัยต่าง ๆ อีกหนึ่งส่วนคือการอบรมในรูปแบบของภาคปฏิบัติ การอบรมในรูปแบบของภาคปฏิบัติคือการซ้อมในเรื่องของการเกิดไฟไหม้หรือการเกิดแผ่นดินไหว การใช้อุปกรณ์รอบตัวมาช่วยทำการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเรา การซ้อมในเรื่องของการใช้บันไดหนีไฟ การซ้อมในเรื่องของการเตรียมพร้อมในเรื่องของไฟไหม้ สัญญาณต่าง ๆ นั้นหมายถึงอะไร ต้องทำตัวอย่างไร การเรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้จะช่วยให้เรานั้น รอดพ้นวิกฤตต่าง ๆ ถ้าเกิดเหตุการณ์จริง
สำหรับการซ้อมในเรื่องของเหตุไฟไหม้หรือเหตุแผ่นดินไหว ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใดก็ตามแต่จะเป็นหน่วยงานเล็กหรือหน่วยงานใหญ่ ควรมีการซ้อมเรื่องราวเหล่านี้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง อาจจะใช้วิธีการซ้อมพร้อมกันทั้งเหตุไฟไหม้และเหตุแผ่นดินไหวไปด้วยกันได้ ก่อนการซ้อมในภาคปฏิบัติควรมีการเรียนรู้ของทฤษฎีอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ และสิ่งจำเป็นต่าง ๆ รวมถึงซ้อมในเรื่องของการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ
ทำการซ้อมภาคปฏิบัติบ่อยๆ ลดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี
มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ที่เป็นเหตุการณ์จริงแล้วผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่สามารถที่จะทำการปฐมพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บเบื้องต้นได้ เป็นการทำผิดวิธีอาจจะเพิ่มการบาดเจ็บให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้วได้ การศึกษาเรื่องราวหรือการเรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้จึงเป็นการเรียนรู้ที่เราควรจะมีการกระทำอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานอยู่ในตึกที่มีความสูงจำนวนหลายชั้น ควรจะมีการอบรมเรื่องความปลอดภัย มีการซ้อมการหนีไฟอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งขึ้นไปตามที่กฎหมายกำหนด เคยเกิดเหตุการณ์ขึ้นหลายครั้งในเรื่องราวของอุบัติภัยต่าง ๆ และเมื่อได้สอบถามกับผู้ที่เกิดอุบัติเหตุเหล่านี้ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยมีการอบรมและไม่เคยมีการซ้อมกับเรื่องราวป้องกันอันตรายต่าง ๆ เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาความรับผิดชอบและหน้าที่การดูแลรับผิดชอบทั้งหมดจึงตกอยู่ที่บริษัทแต่เพียงฝ่ายเดียว ถ้ามีการอบรมอย่างต่อเนื่องและมีการเข้าใจเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง การป้องกันสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยลดการสูญเสียไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินและชีวิตของผู้คนได้เป็นจำนวนมาก
ควรมีตารางอบรมแจ้งพนักงานล่วงหน้าอยู่บ่อย ๆ
ในหน่วยงานห้างร้านที่มีพนักงานเป็นจำนวนมาก อย่างน้อยที่สุดควรจะอบรมพนักงานที่มีความสุ่มเสี่ยงในการทำงาน อย่างเช่นผู้ที่จะต้องอยู่กับเครื่องจักรหนักเครื่องจักรที่ต้องทำงานตลอดเวลา รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่จะต้องสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดการสูญเสียได้เป็นจำนวนมาก
การอบรมความปลอดภัยจึงไม่ใช่หน้าที่ของผู้ใดผู้หนึ่ง จะต้องเป็นหน้าที่ที่ร่วมกันเรียนรู้ทั้งในหน่วยงานเจ้าหน้าที่ในส่วนต่าง ๆ เมื่อเวลาเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดอันตรายใด ๆ จะได้รีบทำการป้องกันและแก้ไขได้ทันท่วงที อย่าคิดว่าโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุร้ายกับเรานั้นอยู่ไกลตัวจนเกินไป การเตรียมตัวไว้พร้อมที่สุดถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด หลายคนชะล่าใจคิดว่าเรานั้นระวังตัวดีอยู่แล้ว อย่าลืมว่าการที่เราระวังตัวไม่ได้หมายความว่าผู้อื่นจะไม่มาเป็นอันตรายต่อเรา การเผลอเลอเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็มีโอกาสที่จะเกิดอันตรายกับเราและผู้คนรอบข้างได้ทั้งหมด จึงมีคำกล่าวที่บอกกันมาอย่างยาวนาน กันไว้ดีกว่าแก้ดีที่สุด