การจัดเก็บสารเคมี

จัดเก็บสารเคมีอย่างไร ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

สารเคมี เป็นสารที่สามารถก่อปฏิกิริยาเคมี ซึ่งสามารถแสดงผลออกมาในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเป็นที่นิยมในวงการอุตสาหกรรมและงานทางการแพทย์ โดยประโยชน์ของมันก็คือสามารถนำไปสร้างผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์การรักษา จนไปถึงผลิตภัณฑ์ระเบิดที่ถูกผลิตในวงการทหารนั่นเอง นั่นจึงทำให้สารเคมีเป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ถึงกระนั้น มันก็มีความอันตรายที่ไม่คาดฝันอยู่เช่น นั่นก็คือ ถ้าหากเราผสมสารหรือผลิตสารโดยไม่ระมัดระวังความปลอดภัย หรือไม่มีความเข้าใจในเรื่องสารนั้น ๆ มาก่อนแต่เริ่ม ก็อาจจะทำให้สารนั้นก่อปฏิกิริยาอย่างไม่คาดคิด อย่างเช่น ไฟไหม้ ระเบิด หรือสร้างแก๊สพิษที่ส่งผลทำให้ร่างกายของเราได้รับความอันตรายทั้งภายนอกและภายในร่างกายเลยทีเดียว ดังนั้น การตระหนักถึงความปลอดภัยของสารเคมีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง และนั่นจึงทำให้สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งได้ถือกำเนิดเกิดขึ้น นั่นกึคือ การจัดเก็บสารเคมีที่ถูกต้อง นั่นเอง

การจัดเก็บสารเคมีนั้น เป็นสิ่งที่จะทำให้เราสามารถร้ได้ว่าสารเคมีใดมีความอันตรายมากหรือน้อยนั่นเอง ซึ่งก่อนที่จะจัดเก็บนั้น เราจำเป็นที่จะต้องรู้ประเภทของสารเคมีก่อน โดยสามารถพิจารณาจากคุณสมบัติความเป็นอันตรายโดยคุณสมบัติหลัก ๆ ของสารเคมีนั้น นั่นก็คือ การติดไฟ การระเบิด และการออกซิไดซ์ ตามมาด้วยคุณสมบัติรอง เช่น ความเป็นพิษ ความกัดกร่อน นั่นเอง ซึ่งเมื่อจำแนกประเภทของสารเคมีแล้ว ก็จะแบ่งได้ดังนี้

  • สารติดเชื้อ
  • สารกัมมันตรังสี
  • วัตถุระเบิด
  • แก๊สอัด ก๊าซเหลว หรือก๊าซที่ละลายภายใต้ความดัน
  • สารที่มีความเสี่ยงต่อการลุกไหม้ได้เอง
  • สารให้ก๊าซไวไฟเมื่อสัมผัสกับน้ำ
  • สารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์
  • สารออกซิไดซ์
  • ของแข็งไวไฟ
  • ของเหลวไวไฟ
  • สารพิษ
  • สารกัดกร่อน
  • ของเหลวติดไฟ/ ของเหลวไม่ติดไฟ
  • ของแข็งติดไฟ/ ของแข็งไม่ติดไฟ

และเมื่อจัดหมวดหมู่จากข้างต้น เราก็จะสามารถแบ่งประเภทของการจัดเก็บสารเคมีได้อีกแบบหนึ่ง ได้แก่

1. สารเคมีไวไฟ เป็นสารเคมีที่สามารถติดไฟได้ในอุณหภูมิและความดันปกติ

ซึ่งวิธีการเก็บรักษาสารเคมีกลุ่มนี้ ก็คือ

  • ควรเก็บในพื้นที่อากาศถ่ายเท 
  • เก็บไว้ในภาชนะที่ปลอดภัย ควรมีฝาปิดอย่างแน่นอน และถ้าจะให้ดียิ้ง ควรจะเก็บไว้ในตู้สำหรับสารไวไฟ
  • ควรเก็บสารเคมีชนิดนี้ให้ห่างจากสารออกซิไดซ์ที่สามารถทำปฏิกิริยาจนเกิดความร้อนหรือระเบิดได้
  • ต้องมีป้ายห้ามสูบบุหรี่หรือก่อประกายไฟติดไว้ 

2. สารเคมีที่เข้ากันไม่ได้ เป็นสารเคมีที่จะไม่ก่ออันตรายใด ๆ ถ้าไม่มีสารหรือสิ่งใดเข้ามาทำปฏิกิริยากับมัน แต่ถ้าหากเข้าใกล้ความร้อน ก็จะเกิดระเบิดหรือสารพิษได้นั่นเอง 

ซึ่งมีวิธีการจัดเก็บสารเคมีกลุ่มนี้ คือ

  • ควรแยกพื้นที่จัดเก็บออกจากกันอย่างชัดเจน
  • ควรเตรียมเครื่องดับเพลิง Class D เอาไว้ในกรณีเกิดเพลิงไหม้จาก Oxidizers
  • เก็บให้ห่างเชื้อเพลิงและวัตถุติดไฟ
  • เก็บห่างจาก reducing agents เช่น zinc, alkaline metal และ formic acid เป็นต้น

3. สารเคมีที่เป็นพิษ คือ สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ซึ่งหมายรวมถึงสารกัมมันตภาพรังสีด้วย

ซึ่งมีวิธีการจัดเก็บสารเคมีกลุ่มนี้ คือ

  • ควรใส่ไว้ในภาชนะที่มีฝาปิด และควรให้ห่างจากแหล่งติดไฟ
  • ควรมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ทั้งตัวภาชนะและบริเวณโดยรอบ
  • สำหรับสารที่ไวต่อแสง ควรเก็บไว้ในที่เก็บที่มีสีชา และอยู่ในพื้นที่แห้ง เย็น และมืด

4. สารเคมีกัดกร่อน เป็นสารเคมีที่เป็นกรด หรือด่าง ซึ่งสามารถทำลายบรรจุภัณฑ์ได้เลยทีเดียว จึงต้องระมัดระวังอย่างมาก

ซึ่งมีวิธีการจัดเก็บสารเคมีกลุ่มนี้ ดังนี้

  • หากเป็นสารเคมีที่เป็นด่าง ควรเก็บแยกจากสารที่เป็นกรด 
  • หากเป็นสารเคมีที่เป็นกรด ควรเก็บแยกจากสารที่สามารถทำปฏิกิริยาได้
  • เก็บไว้ในที่เย็น และต้องสูงกว่าจุดเยือกแข็ง
  • ก่อนใช้งานสารเคมีเหล่านี้ ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันอยู่เสมอ

5. สารเคมีที่ระเบิดได้ คือสารที่ไวต่อปัจจัยหลายๆ และสามารถระเบิดได้ในที่สุด

ซึ่งมีวิธีการจัดเก็บสารเคมีกลุ่มนี้ ดังนี้

  • ควรเก็บให้ห่างขากสารเคมีอื่น ๆ และต้องล้อคอย่างแน่นหนา
  • ไม่ควรเก็บในที่ที่มีเชื้อเพลิง และต้องห่างสารไวไฟอย่างน้อย 20 ฟุต
  • ไม่ควรมีชนวนระเบิด รวมถึงสารและเครื่องมืออื่น ๆ บริเวณเดียวกันนั้น
  • ไม่ควรซ้อนกันเกิน 6 ฟุต และต้องเคลื่อนย้ายอย่างระมัดระวัง
  • ห้ามไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปในที่เก็บสารเคมีประเภทนี้เด็ดขาด

ซึ่งการจัดเก็บสารเคมีเหล่านี้ หากไม่สามารถเก็บได้อย่างถูกต้อง แล้วมันจะนำพามาซึ่งความสูญเสียของทรัพย์สิน ตลอดจนชีวิตของผู้ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับสารเคมีเลยทีเดียว ดังนั้น ในการจัดเก็บสารเคมี ผู้ใช้งานควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตลอดเวลา รวมไปถึงการตรวจเช็คสถานที่ที่ใช้เก็บสารเคมีพวกนี้ เพื่อป้องกันการรั่วไหลที่อาจจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้นั่นเอง

นอกจากนี้ สถานที่ที่ใช้เก็บสารเคมี ควรมีการระบุชื่อไว้ที่ป้ายอย่างชัดเจน ผนังกำแพงรอบด้านควรทนไฟและภายในควรเป็นพื้นที่แห้งและเย็น อากาศถ่ายเทได้ดี แต่แดดต้องไม่ส่องถึงสารเคมี ควรมีการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่ควรวางขวดบนพื้นโดยตรง หรือวางไว้ใกล้ประตูและหน้าต่าง หากเป็นสารเคมีที่มีขนาดใหญ่  ไม่ควรเก็บไว้ในที่สูงและต้องสะอาดอยู่เสมอ ควรเรียงสารจากวันหมดอายุ ถ้าหากมีสารเคมีตัวใดที่หมดอายุ ต้องรีบทำลายทิ้งโดยทันที และสุดท้ายนี้ ควรมีอุปกรณ์ดังเพลิง อุปกรณ์ป้องกันภัย ชุดป้องกันสารเคมี และ ชุดปฐมพยาบาลพร้อมในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินอีกด้วย

ดังนั้นแล้ว การจัดเก็บสารเคมี จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการใช้สารเคมีในทางอุตสาหกรรมหรือวิทยาศาสตร์ เพราะหากไม่มีการจัดเก็บสารเคมี ก็อาจจะทำให้สารเคมีทำปฏิกิริยา และนำความอันตรายมาถึงแก่ชีวิตของพวกเราได้ เพราะฉะนั้นการรู้จักวิธีการจัดเก็บสารเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากนั่นเอง