เรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะการเกิดอุบัติเหตุที่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นมักจะส่งผลร้ายถึงขั้นเสียชีวิตเสมอ หลายคนมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไปโดยการติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในบ้านตัวเองอย่างไม่ได้มาตรฐานเนื่องจากเอาประหยัดเข้าว่าจึงเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุที่ใหญ่หลวงตามมาทีหลัง
การเลือกช่างไฟฟ้าที่เข้ามาติดตั้งระบบไฟฟ้าในบ้านของเราจะต้องเป็นช่างที่มีมาตรฐานทั้งคนทำงานและทั้งอุปกรณ์เราจะต้องมั่นใจว่าทีมงานเหล่านั้นมีความรู้ที่เพียงพอในการติดตั้งระบบไฟฟ้าบ้านได้อย่างถูกต้องเครื่องมือเครื่องไม้ต่างๆที่นำมามีความน่าเชื่อถือมีมาตรฐานและถ้าจะให้ดีตามมาตรฐานของโรงงานอุตสาหกรรมเลยเครื่องมือที่นำมาติดตั้งหรือตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้านจะต้องได้รับการรับรองผ่านการสอบเทียบ ISO 17025 เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องมือเหล่านั้นมีการสอบเทียบความถูกต้องแล้ว
เป็นยังไงบ้างอ่านมาถึงตรงนี้ถ้าเราเลือกทีมช่างที่มีมาตรฐานก็ต้องหากันยุ่งยากเลยทีเดียวและที่สำคัญต้องจ่ายในราคาที่แพงกว่าช่างทั่วๆไปแต่สิ่งที่แลกมานั้นคือความปลอดภัยของคนในบ้านเราที่จะไม่ต้องมาเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าชีวิตของของลูกหลานเรา ครอบครัวเรา นั้นประเมินค่าไม่ได้เลยและเมื่อเกิดเหตุแล้วจะควักเงินมาจ่ายทีหลังกี่ล้านบาทก็สายไปเสียแล้ว
การติดตั้งระบบไฟฟ้าบ้านที่ปลอดภัยเริ่มต้นอย่างไร
- เลือกทีมช่างที่มีมาตรฐานและมีวิศวกรไฟฟ้าเป็นผู้คุมงาน
- เครื่องมือที่นำไปใช้ติดตั้งหรือตรวจสอบจะต้องได้รับการสอบเทียบมาตรฐาน ISO 17025
- บริษัทที่ใช้บริการต้องมีความน่าเชื่อถือ เช่น มีลูกค้าเจ้าใหญ่ที่ใช้บริการอยู่แล้ว หรือ มี ISO 9001 เป็นต้น
- ทุกครั้งที่มีการตรวจสอบจะต้องออกรายงานการตรวจสอบปรับปรุงแก้ไขและเซ็นต์รับรองโดยวิศวกรไฟฟ้าที่มี กว.
- ควรตรวจสอบทุกๆ 1 ปี เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิตคนในบ้านเรา
- หากเป็นคอนโด ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว ควรมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าก่อนรับมอบบ้านโดยทีมงานวิศวกรที่ทางเจ้าของบ้านหามาเองไม่ใช่ทีมงานของวิศวกรโครงการ (third party)
- โครงการหมูบ้านต่าง ๆ ควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าของตนเองทุกๆ 1 ปีเป็นอย่างน้อย
สรุป: ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเราควรวางรากฐานเพื่อป้องกันก่อนเกิดเหตุจะได้กว่าตามแก้ไขหลังเกิดเหตุ ความปลอดภัยของชีวิตเป็นสิ่งคุ้มค่าที่ควรลงทุนเพื่อให้คนในครอบครัวและคนที่เรารักปลอดภัยตลอดที่อยู่ภายในบ้านของเรา